Tel. 0800-555-555 | 0900-555-555

“ดอนนารุมมา”ฝันไกลถึงบัลลงดอร์

ทีมชาติอิตาลีประสบความสำเร็จอย่างสมบูรณ์แบบด้วยการคว้าแชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2020 เป็นการคว้าแชมป์รายการนี้เป็นสมัยที่ 2

อิตาลีชุดนี้อยู่ภายใต้การคุมทีมของโรแบร์โต้ มันชินี สร้างปรากฎการณ์หลายอย่าง เริ่มตั้งแต่สไตล์การเล่นที่เปลี่ยนจากรับสุดขีด เป็นทีมที่เปิดเกมบุกเต็มตัว และที่สำคัญก็คือนักเตะที่ถูกใช้งานไม่มีใครเลยที่เป็นผู้เล่นระดับ “บิ๊กเนม” ส่วนมากก็เล่นอยู่ในกัลโช เซเรียอา ที่ไม่ได้โด่งดังอะไรมากนัก ผู้เล่นที่แฟนบอลรู้จักมากที่สุดก็คือ จอร์จินโญ ที่เล่นอยู่ในทีมเชลซี และช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ยูฟา แชมเปียนส์ลีกไปครอง

แต่ในที่สุดก็ยังมีผู้เล่นที่โดดเด่นที่สุดอยู่ดี เพราะตำแหน่งยอดเยี่ยมในทัวร์นาเมนต์ตกเป็นของ “จิอันลุยจิ ดอนนารุมมา” ซึ่งเป็นผู้เล่นในตำแหน่งผู้รักษาประตู

ก่อนหน้านี้มีเพียงปีเตอร์ ชไมเคิล นายทวารทีมชาติเดนมาร์กชุดคว้าแชมป์ยูโร 1992 ที่ได้รับเลือกเป็นนักเตะยอดเยี่ยมในทัวร์นาเมนต์

ดอนนารุมมา อายุแค่ 22 ปีเท่านั้น เป็นเจ้าของความสูงถึง 196 เซนติเมตร ซึ่งเจ้าตัวบอกว่าตอนอายุ 11 ปีเขาก็สูงถึง 190 เซนติเมตรแล้ว และสูงกว่าเด็กๆ ทุกคนในรุ่นเดียวกัน กระทั่งมาริเนลลาแม่ของเขาต้องเอาสูติบัตรไปให้ทุกคนดูว่าเขายังเป็นเด็กอายุสิบเอ็ดขวบเท่านั้น

และหุ่นสูงยาวเป็นเสาโทรเลขก็กลายเป็นจุดเด่นของเขาอย่างแท้จริง

ภาพแห่งความทรงจำของแฟนบอลทั่วโลกก็คือการเซฟลูกยิงของเจดอน ซานโช และ บูกาโย ซาก้า ในนัดชิงชนะเลิศ ช่วยให้อิตาลีคว้าแชมป์ และก่อนหน้านี้ก็เป็นฮีโร่ในการดวลจุดโทษกับสเปนมาแล้ว

“ตอนที่ผมเซฟลูกยิงของซาก้าได้ ที่เห็นว่าผมไม่ได้ดีใจอะไรเลย เพราะตอนนั้นผมไม่รู้ว่าอิตาลีชนะและได้เป็นแชมป์ไปแล้ว เพราะตอนที่จอร์จินโญซัดจุดโทษพลาด ผมคิดว่าเราหมดหวังไปแล้วด้วย ผมมาเข้าใจสถานการณ์จริงๆ ก็ตอนที่เพื่อนๆ เข้ามากระโดดกอดแสดงความดีใจ”

ดอนนารุมมา เป็นยักษ์ใหญ่แต่ยังมีความเป็นเด็กในตัว แต่ประสบการณ์ในการเล่นของเขาไม่น้อยเลย เขาเริ่มเล่นฟุตบอลตั้งแต่อายุได้ 5 ขวบ และเข้าเป็นนักเตะของ “ปีศาจแดงดำ” เอซี มิลาน ตั้งแต่อายุ 14 โดยไต่เต้าจากนักเตะเยาวชนไปสู่ทีมชุดยู-19 และเมื่ออายุได้ 16 ปีก็ได้ลงเล่นในกัลโช เซเรียอา เป็นนัดแรก

และจนถึงตอนนี้เขาลงเล่นให้มิลานในเซเรียอาไปแล้วถึง 215 นัด และกลายเป็นนายทวารมือ 1 ของทีมชาติอิตาลี เป็นหัวใจสำคัญของทีมจนกระทั่งได้รับเลือกเป็นนักเตะยอดเยี่ยมทัวร์นาเมนต์ เป็นผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมในทีมยอดเยี่ยมของยูโร 2020

“จุดเด่นของตัวผมเองก็บอกไม่ถูกเหมือนกันครับ น่าจะเป็นเพราะการเล่นแบบไร้ความกลัวมั้ง เป้าหมายของผมก็คือคว้าแชมป์ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และหากเป็นไปได้ก็อยากจะลุ้นตำแหน่งบัลลงดอร์สักครั้ง”

แชมป์ยูโร 2020 อาจจะเป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น

ดอนนารุมมา ติดทีมชาติหนแรกเมื่อปี 2016 ขณะมีอายุแค่ 17 ปีเท่านั้น และได้ถูกเปลี่ยนลงไปเล่นแทนที่จิอันลุยจิ บุฟฟอน ซึ่งเป็นไอดอลของเขาในเกมอุ่นเครื่องกับฝรั่งเศส กลายเป็นนายทวารอายุน้อยที่สุดลงเล่นให้ทีมชาติอิตาลี

ถึงปี 2018 เขาก็กลายเป็นผู้รักษาประตูมือ 1 ของอัซซูรี และความหวังของเขาก็คือจะค้าแข้งไปจนถึงอายุ 40 และอยากจะมีฝีมือยอดเยี่ยมเหมือนบุฟฟอนและดิด้า ซึ่งเป็นต้นแบบที่เขายึดเป็นแบบอย่าง

ดอนนารุมมาบอกว่าพ่อของเขาเป็นแค่ช่างไม้ แต่เป็นคนสอนเขาให้เล่นฟุตบอล ไม่เพียงเท่านั้นยังสอนให้เขาเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน รู้จักช่วยเหลือคนอื่น และทำให้สามารถปรับตัวได้ดีเมื่อย้ายมาเล่นให้มิลาน และนัดแรกที่ลงเล่นในกัลโช เซเรียอา ก็คือพบกับซาสซูโอโล่ เมื่อ 25 ต.ค.2015 โดยมีอายุ 16 ปีกับอีก 242 วัน

หลังจากเขาเล่นในอิตาลีมานานกว่า 6 ปี ดอนนารุมมา ก็แสวงหาความท้าทายครั้งใหม่ด้วยการย้ายไปร่วมทีมปารีส แซงต์แยร์กแมง ในลีกเอิงในฤดูกาลหน้าหลังจากไม่ต่อสัญญากับมิลาน เขาจะได้เล่นอยู่ในทีมเดียวกันกับเนย์มาร์,คิลิยัน เอ็มบัปเป้ และ เซร์คิโอ รามอส

“ผมชอบเรียนรู้และแสวงหาความท้าทายใหม่ๆ และคงต้องทำงานหนักมากยิ่งขึ้น การย้ายออกจากมิลานไม่ใช่การตัดสินใจที่ง่ายเลย แต่ผมก็ต้องการก้าวต่อไป พัฒนาตัวเองให้มากยิ่งขึ้น และการได้เล่นในยูฟา แชมเปียนส์ลีกก็คงน่าตื่นเต้นมาก”

แม้จะเป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมของยูโร 2020 และเป็นแชมป์ยุโรปแล้ว แต่ดอนนารุมมายังต้องพิสูจน์ตัวเอง เพราะเขายังต้องแย่งชิงตำแหน่งมือ 1 ของทีมกับเคย์เลอร์ นาบาส ผู้รักษาประตูทีมชาติคอสตาริกาซึ่งเป็นจอมหนึบคนหนึ่งในวงการ

ลีกเอิงฤดูกาลหน้าจึงเป็นช่วงเวลาแห่งความท้าทายของดอนนารุมมาอย่างแท้จริง