ยังจำแมตช์ แมนฯยูไนเต็ด 4 – 0 นอริช ได้มั้ยครับ ความรู้สึกในตอนนั้นเป็นยังไงกันบ้าง
แต่แอดบอกเลยว่า ไม่ว่าใครก็ตาม ก็ต้องพูดถึงอัจฉริยะลูกหนังจากแดนซามูไร “ชินจิ คากาวะ” เพราะแฮตทริกที่เขาทำได้ในนัดนั้น แต่ละลูกที่ยิงเข้าไป มันช่างเหนือชั้นซะเหลือเกิน
โดยประตูแรก เกิดขึ้นตอนนาทีที่ 45 จากการเปิดบอลของ วาเลนเซีย เข้ามาจากทางขวาให้ ฟาน เพอร์ซีย์ แต่จับบอลลั่นไปเข้าทาง คากาวะ ยิงวอลเลย์ แบบ ไซด์ก้อย เข้าไปทางเสาใกล้ ผู้รักษาประตูถึงจะยืนอยู่ไม่ห่าง แต่ก็บลอคไม่ได้เพราะไม่คิดว่าจะยิงไปมุมนั้น
ประตูที่สอง จากจังหวะวางบอลยาวของ คาร์ริค ส่งให้ รูนีย์ ที่กำลังวิ่งทำทาง แล้วลากบอลเข้ากรอบเขตโทษไปทางขวา ก่อนจะลอคหนึ่งจังหวะ แล้วส่งเข้ากลางให้ คากาวะ ที่เติมขึ้นมา แปรบอลสวนทางผู้รักษาประตู ซึ่งพุ่งไปฝั่งซ้าย เข้าตาข่ายไปแบบเนียนๆ
ประตูที่สาม มหาเทพเวลเบ็ค ที่ได้บอลจาก คากาวะ ลากบอลจากครึ่งสนามขึ้นมา ก่อนจ่ายให้ รูนีย์ ที่รออยู่ด้านหน้า จากนั้นเสี่ยหมูแปะบอลคืนให้กองกลางจากแดนซามูไรที่วิ่งเติมขึ้นมา ก่อนแตะยาวหนึ่งจังหวะเข้าไปในเขตโทษ แล้วค่ยชิพข้ามผู้รักษาประตูเข้าตาข่ายไปอย่างสวยงาม
แอดขอแถมให้ลูกสุดท้ายของ รูนีย์ ที่รับบอลจากเวลเบ็คหน้ากรอบเขตโทษฝั่งซ้ายความไกลประมาณ 30 หลา ก่อนลากตัดเข้ากลาง พร้อมหลอกยิงหนึ่งจังหวะ ทำให้กองหลังนอริช เสียจังหวะ เสร็จแล้ว เสี่ยหมูไม่รอช้า วางเท้าตะบันยิงเต็มตีนหักข้อเข้าเสาใกล้ จนผู้รักษาประตูกระโดดรับไม่ทัน
จบเกม คากาวะ กลายเป็นนักเตะเอเชียคนแรก ที่ทำแฮตทริก ได้ในพรีเมียร์ลีก และแจ้งเกิดได้อย่างเต็มตัวกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
