Tel. 0800-555-555 | 0900-555-555

บ็อกซิ่งเดย์สุดมัน “เรือ” ซัด “จิ้งจอก” รวมกัน 9 ลูก

ยังคงแรงไม่หยุดฉุดไม่อยู่ สำหรับ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ภายใต้แผนการนำทัพของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ที่เกมบ็อกซิ่งเดย์ ล่าสุดโคตรมันส์กับเกมนัดที่ 19 ของพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านต้อนรับ “จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ ซิตี้ และงานนี้ เรือใบ ก็ไล่ต้อนถลุงคู่แข่งในบ้านของตัวเองด้วยชัยชนะ 6 – 3 ซึ่งเป็นเกมส์สุดมันส์ที่ทั้งสองทีมยิงรวมกันได้ถึง 9 ลูก และแน่นอนว่างานนี้พลพรรคนักเตะ เรือใบสีฟ้า ต่างก็ทยอยกันทำสถิติกันอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ ราฮีม สเตอร์ลิงที่ใน 5 นัดหลังสุดของพรีเมียร์ลีก เจ้าตัวได้ส่งชื่อขึ้นบนสกอร์บอร์ดทุกนัด

ภายใต้ปัญหาที่หนักอึ้งของ เป๊ป กวาดิโอลา กุนซือสมองเพชรชาวสเปน ที่ในฤดูกาลนี้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ขาดกองหน้าตัวเป้า แต่ทว่าสำหรับ 3 เกมหลังสุด แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยิงประตูคู่แข่งถึง 17 ประตูรวมกัน ซึ่งนับย้อนกลับไป 3 เกมหลังสุด ที่เริ่มจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พวกเขาถล่ม ลีดส์ ยูไนเต็ด ถึง 7 – 0 และตามมาด้วยบุกไปเก็บ 3 แต้มที่บ้าน นิวคาสเซิล ได้ถึง 4 – 0  และเกมล่าสุดนะที่ 19 ของพรีเมียร์ลีก บ็อกซิ่งเดย์สุดมัน “ซิตี้”  ก็เปิดบ้าน เอติฮัต ต้อนรับ “จิ้งจอกสยาม” และเก็บชัยชนะได้ถึง 6 – 3 นี่คือแผนของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ที่ไม่มีกองหน้าตัวเป้า

และต้องเรียกได้ว่าเกม บ็อกซิ่งเดย์สุดมันส์ที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แลกกันยิงกับ เลสเตอร์ ซิตี้ รวมกันถึง 9 ประตู ซึ่ง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ประตูจาก เควิน เดอ บรอยน์, ริยาด มาห์เรซ, กุนโดกัน, สเตอร์ลิง 2 ประตู และ อเมริก ลาปอร์ต ปิดท้ายอีก 1 ลูก

และแน่นอนว่านักเตะ “ซิตี้” โชว์กะศักยภาพอย่างเหนือชั้น ซึ่งพวกเขาเล่นด้วยความกระตือรือร้นมากพอ ถึงแม้ว่าจะไม่มีกองหน้าตัวเป้า และนี่ก็เป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้ว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถึงแม้พวกเขาไม่มีกองหน้าตัวเป้าเหมือนกับทีมอื่น แต่ทีมสปิริต และความสามารถเฉพาะตัวของนักเตะ ต่างก็ส่งต่อความสำเร็จให้กับทีมในปัจจุบันนี้

ซึ่งหลังจากจบเกมการแข่งขันนัดบ็อกซิ่งเดย์บ้าคลั่งที่ แมน ฯ ซิตี้ ยิง “จิ้งจอกสยาม” ถึง 6 ลูก สถิติของทีมที่น่าชื่นชมก็เกิดขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่ 5 เกมหลังสุดของพรีเมียร์ลีก ราฮีม สเตอร์ลิง ส่งชื่อของตัวเองขึ้นบนสกอร์บอร์ดอย่างต่อเนื่อง และยิงได้ถึง 5 ประตูติดต่อกัน

ส่วนทางด้าน ริยาด มาห์เรซ ก็ยังคงนำเป็นดาวซัลโวของทีมต่อไป หลังจากที่ในซีซั่นนี้ จนถึงเกมการแข่งขันล่าสุดในนัดที่ชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 6 – 3 ริยาด มาห์เรซ ยิงรวมกันทุกรายการถึง 12 ประตู ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นการส่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายมากกว่ากองหน้าตัวเป้าบางทีมด้วยซ้ำ