การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2021-22 จะเปิดฉากตั้งแต่ในวันเสาร์ที่ 14 สิงหาคมนี้แล้ว มีการเสริมขุมกำลังกันอย่างคึกคัก โดยเฉพาะทีมในระดับท็อปไฟว์ถือว่าเติมขุมกำลังจนแข็งแกร่ง
แต่ลองมาดูสิว่าจุดแข็งและจุดอ่อนของทีมใหญ่ในพรีเมียร์ลีกที่มีเป้าหมายทั้งลุ้นแชมป์และลุ้นโควต้ายูฟา แชมเปียนส์ลีกมีอะไรกันบ้าง
1.ลิเวอร์พูล
“หงส์แดง” ไม่สามารถป้องกันแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลที่ผ่านมาได้เพราะมีปัญหาหลายด้านทั้งปัญหาอาการบาดเจ็บของผู้เล่นตัวหลัก ฟอร์มแผ่ว และผลงานในบ้านตกต่ำลงไป แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้ทีมกลับมาแกร่งพอที่จะลุ้นแชมป์ได้แล้ว
เป้าหมาย-เจอร์เกน คล็อปป์ มั่นใจว่าถ้าลิเวอร์พูลมีสภาพทีมที่สมบูรณ์เหมือนเมื่อฤดูกาล 2019-20 ทีมจะมีโอกาสหยิบแชมป์พรีเมียร์ลีกได้อีกสมัย และผู้เล่นสองคนที่ทีมจะขาดไม่ได้ก็คือ เวอร์กิล ฟาน ไดจ์ค และ โม ซาลาห์ คนนึงคือหัวใจในเกมรุก ส่วนอีกคนคือดาวยิงที่ฟอร์มสม่ำเสมอที่สุด
ปัญหา-ลิเวอร์พูลได้แชมป์พรีเมียร์ลีกเมื่อ 2 ฤดูกาลก่อนต้องยอมรับว่าเพราะบรรดาเดอะค็อปที่เข้ามาเชียร์ในแอนฟิลด์เป็นแรงผลักดันนั่นเอง แต่ฤดูกาลเจอวิกฤตไวรส โควิด-19 ทำให้แฟนบอลไม่อาจเข้ามาเชียร์ในสนามได้ และหวังว่าสถานการณ์เช่นนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก
ผู้เล่นคนสำคัญ-ในทีม “หงส์แดง” ไม่มีผู้เล่นคนไหนสำคัญมากไปกว่าโม ซาลาห์ อีกแล้ว กองหน้าทีมชาติอียิปต์รักษามาตรฐานการยิงประตูของตัวเองได้อย่างต่อเนื่อง เป็นกุญแจแห่งความสำเร็จของทีมเลยทีเดียว
2.แมนฯซิตี้
ฤดูกาลที่แล้ว “เรือใบสีฟ้า” คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกด้วยฟอร์มแกร่งทั่วแผ่น และการทุ่มเงินกว่า 100 ล้านปอนด์คว้าตัวแจ็ค กรีลิช มาร่วมทีมก็คือต้องการตอกย้ำความสำเร็จต่อจากฤดูกาลที่แล้วให้ได้
เป้าหมาย-เป็ป กวาร์ดิโอลา ยังอยากได้ตัวแฮร์รี เคนเข้ามาเสริมแนวรุก ไม่เพียงแต่ต้องการป้องกันแชมป์พรีเมียร์ลีกเท่านั้น ยังต้องการแชมป์ยูฟา แชมเปียนส์ลีกมาครองให้ได้เสียทีด้วย
ปัญหา-แมนฯซิตี้มีแนวรับแข็งแกร่ง มีแผงกองกลางที่เต็มไปด้วยเวิลด์คลาส แต่ปัญหาเดียวก็คือกองหน้าตัวเป้า เซร์คิโอ “กุน” อเกวโร ไม่ได้อยู่กับทีมแล้ว ส่วนกาเบรียล เฮซุส ก็เอาแน่นอนไม่ได้ ถ้าไม่ได้เคนย้ายมาร่วมทีมเห็นจะทีจะเหนื่อยแน่
ผู้เล่นคนสำคัญ-หากเคนย้ายมาร่วมทีมเขาคงเป็นอาวุธใหม่ของ “เรือใบสีฟ้า” อย่างแน่นอน แต่ถ้าไม่สำเร็จก็ยังคงเป็นเควิน เดอบรอยน์ จอมทัพของทีมที่หากว่าไม่มีอาการบาดเจ็บรบกวนยังไม่มีกองกลางคนไหนในลีกเด่นไปกว่าเขา
3.แมนฯยู
“ผีแดง” ได้รองแชมป์เมื่อฤดูกาลที่แล้ว และเสริมทัพด้วยการคว้าเจดอน ซานโช และราฟาเอล วาราน เข้ามาเสริมทีม เป้าหมายก็คือแชมป์สถานเดียวเท่านั้น
เป้าหมาย-โอเล กุนนาร์ โซลชา เทหมดหน้าตักเพื่อให้เขาเป็นกุนซือที่พาแมนฯยูคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกต่อจากเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน หากทำได้ต่ำกว่านั้นถือว่าล้มเหลว
ปัญหา-แมนฯยูมีบรูโน เฟอร์นานเดส,แฮร์รี แม็คไกวร์ และ มาร์คัส แรชฟอร์ม ที่เล่นได้คงเส้นคงวามากที่สุด แต่ขุมกำลังที่เหลือศักยภาพไม่เท่ากัน ทำให้ระบบหมุนเวียนนักเตะมีปัญหาให้ทีมเล่นได้ไม่คงเส้นคงวา
ผู้เล่นคนสำคัญ-ราฟาเอล วาราน อาจจะเป็นการซื้อแห่งฤดูกาล ปราการหลังทีมชาติฝรั่งเศสประสบการณ์สูง อ่านเกมได้อย่างยอดเยี่ยม และหวังว่าจะอุดรอยรั่วในแผงหลังที่เป็นปัญหามาตลอดลงได้เสียที
4.เชลซี
โธมัส ทูเคิล คือผู้พลิกโฉมของ “สิงโตน้ำเงินคราม” ได้อย่างแท้จริง กุนซือชาวเยอรมนีคุมทีมมาเมื่อเดือนม.ค.แต่ทำให้ทีมเล่นดีขึ้นอย่างผิดหูผิดตา แถมได้แชมป์ยูฟา แชมเปียนส์ลีก เป้าหมายอันดับ 1 ก็คือแชมป์พรีเมียร์ลีกเช่นเดียวกัน
เป้าหมาย-ทูเคิลพาเชลซีได้แชมป์ยูฟา แชมเปียนส์ลีก แต่การได้แชมป์ลีกในฤดูกาลนี้น่าจะมีความสำคัญมากกว่า และแก้ปัญหาให้ตรงจุดก็คือคว้าโรเมลู ลูกากู กลับคืนสู่สแตมฟอร์ด บริดจ์อีกครั้ง
ปัญหา-เชลซีออกสตาร์ตฤดูกาลที่แล้วด้วยฟอร์มไม่คงเส้นคงวา ทูเคิล มีเวลาคุมทีมเต็มฤดูกาลและต้องแสดงฝีมือให้เห็น น่าเสียดายที่เชลซีมีนักเตะค่าตัวแพงแน่นทีมทำให้ผู้เล่นดาวรุ่งหมดโอกาสฉายแสงและต้องไปหาโอกาสกับทีมอื่นด้วยสัญญายืมตัว
ผู้เล่นคนสำคัญ-ในยุคของแฟรงก์ แลมพาร์ด ดูเหมือนว่าไค ฮาแวร์ตซ์ จะไม่สามารถส่องประกายได้ แต่ทูเคิลให้โอกาสเขา และกลายเป็น “False 9” คนสำคัญ มีบทบาททั้งเชื่อมเกม ทำแอสซิสต์ และทำประตูเอง การทำประตูชัยในนัดชิงยูฟา แชมเปียนส์ลีก น่าจะทำให้ดาวเตะทีมชาติเยอรมนีน่าจับตามองมากที่สุด
5.เลสเตอร์ ซิตี้
แบรนดอน ร็อดเจอร์ส สร้างทีม “จิ้งจอกสยาม” ได้น่าประทับใจ แม้จะไม่มีนักเตะบิ๊กเนมอยู่ในทีม แต่ยืนระยะได้ดีมาก แถมพาทีมคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ มาครองได้อีก และก่อนเปิดฤดูกาลก็ดับแมนฯซิตี้คว้าถาดแชมป์คอมมิวนิตี้ ชีลด์ มาครองได้อีก
เป้าหมาย-เลสเตอร์คงไม่หวังไกลถึงลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกแน่นอน แต่หากสามารถทำอันดับติดท็อปโฟร์และได้โควตาไปเตะยูฟา แชมเปียนส์ลีกก็มีความเป็นไปได้ หากเล่นได้ยอดเยี่ยมเหมือนฤดูกาลที่ผ่านมา
ปัญหา-ขุมกำลังที่ไม่แข็งแกร่งเหมือนทีมใหญ่ทีมอื่นๆ ทำให้ “จิ้งจอกสยาม” ไปไม่ถึงฝัน เวสลีย์ โฟฟานา ก็เพิ่งบาดเจ็บต้องพักยาวไปทั้งปี จอนนี อีแวนส์ ก็โรยราลงไป
ผู้เล่นคนสำคัญ-ท้ายฤดูกาลที่แล้วเลสเตอร์ฟอร์มแผ่วลงไป ส่วนหนึ่งเพราะการขาดหายไปของฮาร์วีย์ บาร์นส์ และหากบาร์นส์กลับมาในสภาพสมบูรณ์ การได้ไปเตะยูฟา แชมเปียนส์ลีกคงอยู่ไม่ไกล
