ไม่ต้องสงสัยเลยว่า “โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้” คือหนึ่งในสไตรค์เกอร์ที่อันตรายที่สุดในยุโรป แต่รู้หรือไม่ว่า?? เขาเกือบจะได้มาค้าแข้งกับ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส แล้ว แต่ทำไมถึงไม่มีดีลนี้เกิดขึ้น สงสัยเรื่องนี้กันดีกว่า
ย้อนไปในปี 2010 โรเวอร์สยังอยู่ในพรีเมียร์ลีก Big Sam พยายามจะดึงตัวเขามาอยู่กับ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส แต่ทำไมดีลนี้จึงไม่เกิดขึ้นล่ะ?
ไม่ใช่เพราะปัญหาการตรวจร่างกายไม่ผ่าน หรือตกลงสัญญากันไม่ลงตัว!!
แต่สิ่งที่ดับฝันแฟนๆทีม กุหลาบไฟ นั่นคือ การระเบิดปะทุของภูเขาไฟ “เอยาฟยาตลาเยอคลุตล์” (ชื่อจะอ่านยากไปไหน?!) ในประเทศไอซ์แลนด์ เดือนเม.ย. ปี 2010 เป็นเหตุให้ “เลวานดอฟสกี้” ไม่สามารถบินมายังอังกฤษได้
“เลวานดอฟสกี้”ได้โลดแล่นโชว์ฟอร์มอยู่กับสโมสรเลซ พอซนาน ในโปแลนด์ และเป็นที่สนใจของ Big Sam อย่างมาก แต่ด้วยค่าตัวของ เลวานดอฟสกี้ นั้นสูงเกินไปสำหรับกุหลาบไฟ Big Sam จึงเชิญชวนให้ “เลวานดอฟสกี้” เดินทางมาเยี่ยมชมสโมสรด้วยตนเองที่อังกฤษ เพื่อพยายามที่จะโน้มน้าวเขา
“ผมไม่สามารถเดินทางไปอังกฤษ ไปดูสโมสร แบล็คเบิร์น ได้ เพราะภูเขาไฟระเบิด ถ้าผมได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมสโมสร ที่นั่นน่าจะเป็นตัวเลือกอันดับ 1 ของผม” เลวานดอฟสกี้กล่าว
ด้วยเหตุการณ์นี้ ทำให้ ดอร์ทมุนด์ สบโอกาสคว้าตัว “เลวานดอฟสกี้”ด้วยค่าตัว 5 ล้านดอลลาร์ เดือน มิ.ย. ปี 2011 เขาลงเล่นให้กับ ดอร์ทมุนด์ 187 นัด ยิงไป 103 ประตู ต่อมาในปี 2014 เขาย้ายซบ บาเยิร์น มิวนิค ซึ่งเป็นการย้ายฟรี และสร้างชื่อเป็นสไตรค์เกอร์ที่ดีที่สุดในโลก ด้วยการสร้างสถิติ ยิง 5 ประตู ด้วยเวลาเพียง 9 นาที ในเกมที่เจอกับ โวล์ฟส์บวร์ก ในปี2016 ส่วนด้านแบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ในปี 2012 ฟอร์มย่ำแย่จนตกชั้น
ภูเขาไฟลูกนั้นที่ระเบิดขึ้นมาได้เปลี่ยนแปลงชะตากรรมของ “เลวานดอฟสกี้” และ “แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส”ไปอย่างสิ้นเชิง
ลองจินตนาการดูสิครับ ถ้า “เลวานดอฟสกี้” ได้มาอยู่กับ “แบล็คเบิร์น” จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง…??
