Tel. 0800-555-555 | 0900-555-555

เรื่องควรรู้ของ ยูโร 2020 !!

ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2020 หรือ ยูโร 2020 จะเริ่มการแข่งขันในวันที่ 12 มิถุนายน 2020 ถึงวันที่ 12 กรกฎาคม 2020 โดยมีจำนวนทีมเข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด 24 ทีม แต่ในตอนนี้ ได้สมาชิกมาแล้ว 20 ทีม ขาดอยู่อีก 4 ทีม ซึ่งจะต้องแข่งขันกันทั้งหมด 16 ประเทศ เพื่อหาตัวแทนให้ครบ

โดยโควต้าเพลย์ออฟ จะแบ่งเป็น 4 สาย สายล่ะ 4 ทีม ทำการแข่งขันแบบแพ้คัดออก แล้วเอาผู้ชนะของแต่ละสายนั้นไปเล่นในรอบสุดท้าย ซึ่งผลการจับสลากยูโร 2020 รอบเพลย์ออฟ มีดังนี้

สาย A
ไอซ์แลนด์ – โรมาเนีย
บัลแกเรีย – ฮังการี*

สาย B
บอสเนีย-เฮอร์เซโกวีนา – ไอร์แลนด์เหนือ*
สโลวาเกีย – ไอร์แลนด์

สาย C
สก็อตแลนด์ – อิสราเอล
นอร์เวย์ – เซอร์เบีย*

สาย D
จอร์เจีย – เบลารุส*
มาซิโดเนีย – โคโซโว

(* ผู้ชนะของคู่นั้นจะเป็นเจ้าบ้านในนัดชิง)

และนี่คือสรุปผลการจับสลาก แบ่งกลุ่ม ฟุตบอล ยูโร 2020 รอบสุดท้าย
กลุ่ม เอ : อิตาลี, สวิตเซอร์แลนด์, ตุรกี, เวลส์
กลุ่ม บี : เบลเยียม, รัสเซีย, เดนมาร์ก, ฟินแลนด์
กลุ่ม ซี : ยูเครน, ฮอลแลนด์, ออสเตรีย, (ทีมชนะเพลย์ออฟ สาย ดี)
กลุ่ม ดี : อังกฤษ, โครเอเชีย, สาธารณรัฐเช็ก, (ทีมชนะเพลย์ออฟ สาย ซี)
กลุ่ม อี : สเปน, โปแลนด์, สวีเดน, (ทีมชนะเพลย์ออฟ สาย บี)
กลุ่ม เอฟ : เยอรมนี, ฝรั่งเศส, โปรตุเกส, (ทีมชนะเพลย์ออฟ สาย เอ)

จากผลการจับสลากกลุ่มที่ได้รับการยกว่าเป็น “กรุ็ป ออฟ เดธ” จะเป็นกลุ่มไหนไปไม่ได้นอกจาก “กลุ่มเอฟ” ที่มีทั้ง เยอรมนี แชมป์ 3 สมัย , ฝรั่งเศส แชมป์ 2 สมัย และ โปรตุเกส แชมป์เก่าครั้งล่าสุด

ส่วนที่ดูจะเป็นการถูกพูดถึงกันมากที่สุดใน ยูโร 2020 ครั้งนี้ก็คือ การมีเจ้าภาพร่วมจัดการแข่งขันเป็นจำนวนถึง 12 ประเทศเจ้าภาพ 12 สนาม ซึ่งถือเป็นการเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 60 ปี ของฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป

  1. เวมบลีย์ เมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ มีความจุ 90,000 ที่นั่ง
  2. อัลลิอันซ์ อารีนา เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี มีความจุ 75,000 ที่นั่ง
  3. สตาดิโอ โอลิมปิโก เมืองโรม ประเทศอิตาลี มีความจุ 72,698 ที่นั่ง
  4. โอลิมปิก สเตเดี้ยม เมืองบากุ ประเทศอาเซอร์ไบจาน มีความจุ 68,700 ที่นั่ง
  5. เครสตอฟสกี้ สเตเดี้ยม เมืองเซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย มีความจุ 68,134 ที่นั่ง
  6. ปุสกัส อารีนา เมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี มีความจุ 67,889 ที่นั่ง
  7. อารีนา เนชันนาลา เมืองบูคาเรสต์ ประเทศโรมาเนีย มีความจุ 55,600 ที่นั่ง
  8. โยฮัน ครัฟฟ์ อารีนา เมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ มีความจุ 54,990 ที่นั่ง
  9. ซาน มาเมส เมืองบิลเบา ประเทศสเปน มีความจุ 53,332 ที่นั่ง
  10. แฮมป์เดน พาร์ค เมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์ มีความจุ 52,063 ที่นั่ง
  11. อวีวา สเตเดี้ยม เมืองดับลิน ประเทศไอร์แลนด์ มีความจุ 51,700 ที่นั่ง
  12. พาร์เคน สเตเดี้ยม เมืองโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก มีความจุ 38,065 ที่นั่ง

ทั้งนี้ สตาดิโอ โอลิมปิโก กรุงโรม จะถูกใช้เป็นสังเวียนเปิดสนามในคู่ของ ตุรกี พบกับ อิตาลี วันที่ 12 มิถุนายน 2020 ส่วนนัดชิงชนะเลิศ จะเล่นกันที่ เวมบลีย์ ในวันที่ 12 กรกฎาคม 2020