Tel. 0800-555-555 | 0900-555-555

5 เหตุผลที่โซลชาอาจกระเด็นตกเก้าอี้

ในขณะที่ลิเวอร์พูล,แมนฯซิตี้ และ เชลซี ยังรักษามาตรฐานการเล่นของตัวเองไว้ได้  ในขณะที่สถานการณ์ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลับย่ำแย่หนัก โดยเฉพาะเกมล่าสุดที่บุกไปเยือนคิง พาวเวอร์ สเตเดี้ยม แล้วพ่าย “จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ ซิตี้ 2-4 ประตู

ทั้งๆ ที่ก่อนออกสตาร์ตฤดูกาลใหม่ได้ผู้เล่นฝีเท้าเวิลด์คลาสอย่าง เจดอน ซานโช,ราฟาเอล วาราน และคริสเตียโน โรนัลโด้ มาร่วมทีม ไม่รวมกับขุมกำลังที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว

ดูเหมือนเสียงวิจารณ์ที่ออกมาไม่ค่อยมีใครตำหนิผู้เล่นในทีมเท่ากับแท็คติก การวางตัวผู้เล่นของ “โอเล กุนนาร์ โซลชา” มากกว่า

และดูเหมือนว่าแฟนบอลจะไม่พอใจผลงานของกุนซือชาวนอร์เวย์มากขึ้นเรื่อยๆ และเรียกร้องให้ปลดออกจากตำแหน่ง

และมีเหตุผลอะไรบ้างที่โซลชาควรจะต้องกระเด็นตกเก้าอี้ก่อนที่สถานการณ์ของ “ผีแดง” จะย่ำแย่ไปกว่านี้

1.พ่ายแพ้ให้กับทีมที่อ่อนกว่า

แมนฯยู เป็นทีมระดับโลก มีนักเตะฝีเท้าระดับโลก และล้วนแต่ได้รับค่าเหนื่อยก้อนมหาศาล จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะต้องถูกคาดหวังจากแฟนบอล และทีมยังจบอันดับ 2 ในฤดูกาลที่แล้ว แต่ฤดูกาลนี้ “ผีแดง” กลับต้องเสียแต้มหรือออกจากสนามหลายนัดในการเจอกับทีมที่ชื่อชั้นต่ำกว่ามากทั้ง เซาแธมป์ตัน,แอสตัน วิลลา และ เอฟเวอร์ตัน และอย่าลืมว่าในอีก 3 เกมต่อไปจะต้องห่ำหั่นกับทีมระดับหัวแถวทั้ง ลิเวอร์พูล,แมนฯซิตี้ และ สเปอร์ส โอกาสทำอันดับหล่นรูดลงไปอีกเป็นไปได้มาก

2.การจัดวางตัวผู้เล่นผิดพลาด

กุนซือชาวนอร์เวย์เป็นผู้จัดการทีมแมนฯยูมาตั้งแต่ปี 2018 และในช่วงเวลาคุมทีมยาวนานกว่าสามปีมีผู้เล่นชั้นดีให้เลือกใช้งานมากมาย แต่มีอยู่หลายนัดที่แสดงให้เห็นว่าวางตัวผู้เล่นผิดพลาด เลือกใช้งานผู้เล่นอย่างไม่เหมาะสม ในเกมพรีเมียร์ลีกที่มีความสำคัญแต่หลายเกมก็จัดตัวแบบขัดใจแฟนบอล อย่างเช่นพักคริสเตียโน โรนัลโด้ ในเกมที่เจอกับเอฟเวอร์ตันซึ่งเป็นเกมที่ต้องการชัยชนะ และหลายเกมเลือกใช้เฟร็ดมาเป็นตัวตัดเกมคู่กับสกอตต์ แม็กโทมิเนย์ ในขณะที่ควรจะให้ความสำคัญกับการทำเกมรุกเดินหน้ามากกว่า และ “ผีแดง” ก็ไม่ใช่ว่าจะมีตัวตัดเกมที่แกร่งเหมือนแมนฯซิตี้หรือเชลซีเสียด้วย

3.มีของดีแต่ใช้ไม่เป็น

แมนฯยูได้นักเตะใหม่ระดับคุณภาพมาหลายคน แต่นักเตะที่มีอยู่หลายคนก็มีฝีเท้าที่ยอดเยี่ยมแต่ก็แทบไม่ได้รับโอกาส เมื่อไม่ได้ลงสนามก็ขาดการปรับตัวเข้ากับทีม ไม่มีความมั่นใจ หรือได้ลงเล่นก็มักได้โอกาสพิสูจน์ตัวไม่เต็มที่ บางครั้งลงไปเล่นในช่วงท้ายของเกมแล้ว ผู้เล่นในลักษณะนี้มีอยู่หลายคน แต่เด่นชัดที่สุดก็คือ ดอนนี ฟาน เดอ เบ๊ค มิดฟิลด์ชาวดัตช์เป็นหนึ่งในนักเตะอนาคตไกลในยุโรป มีจุดเด่นตรงการปั้นเกมรุก แต่ได้โอกาสลงเล่นน้อยเกินไป โซลชาดูเหมือนจะมีปัญหาในการดึงศักยภาพนักเตะออกมาได้น้อยมาก ผิดกับเจอร์เกน คล็อปป์,เป๊ป กวาร์ดิโอลา และ โธมัส ทูเคิล

4.พึ่งความสามารถเฉพาะตัวของผู้เล่นมากเกินไป

ฤดูกาลที่แล้ว “ผีแดง” ทำผลงานในการเล่นนอกบ้านได้อย่างยอดเยี่ยม แต่ฤดูกาลนี้เริ่มแสดงให้เห็นถึงความสะดุดโดยเฉพาะเกมล่าสุดกับเลสเตอร์ และดูการเล่นของแมนฯยูพึ่งความสามารถเฉพาะตัวของนักเตะมากกว่าแบบแผนการเล่น บางครั้งทีมเอาตัวรอดได้เพราะการป้องกันประตูอันยอดเยี่ยมของดาวิด เด เคอา หรือการสอดขึ้นไปยิงประตูของบรูโน เฟอร์นานเดส ชัยชนะที่ได้มาเพราะแผนการเล่นอันรัดกุมเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก

5.แท็คติก แผนการเล่นที่ไม่ยืดหยุ่นและหลากหลาย

ถ้าเทียบกับทีมชั้นนนำอย่างลิเวอร์พูล,แมนฯซิตี้ หรือ เชลซี ดูเหมือนแผนการเล่นที่โซลชานำมาใช้ตายตัวเกินไป ไม่ยืดหยุ่นและขาดความหลากหลายเกินไป แนวทางการเล่นของแมนฯยูในยุคนี้แทบจะไม่แตกต่างในแต่ละนัด ชนิดที่เรียกได้ว่าคู่ต่อสู้ไม่ว่าจะเป็นทีมเล็กหรือทีมใหญ่จับทางการเล่นของ “ผีแดง” ได้หมดแล้ว

และหลังเกมที่คิง พาวเวอร์ สเตเดี้ยม ดูเหมือนว่าโรนัลโด้และพอล ป็อกบา มีความเห็นในทำนองเดียวกันว่าเหลวเป๋ว และถึงเวลาต้องแก้ไข

มีปัญหามากมายที่โซลชาจำเป็นต้องปรับเปลี่ยน ต้องกล้าเสี่ยง กล้าทำ ไม่เช่นนั้นเวลาในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ดจะหดแคบลงในที่สุด